อัตรา ณ เวลา 05:00 GMT
ตลาดวันนี้
หมายเหตุ: ตารางข้างต้นได้รับการอัพเดทก่อนการประกาศข้อมูลการสำรวจเงินเฟ้อคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญครั้งล่าสุด อย่างไรก็ตาม เราได้จัดเตรียมข้อความและกราฟไว้ล่วงหน้า ดังนั้นการคาดการณ์ที่ระบุไว้ในตารางข้างต้นกับในข้อความและกราฟอาจแตกต่างกัน
วันของยุโรปจะเริ่มต้นด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMIs) ในภาคบริการที่เป็นตัวเลขสุดท้าย โดยจะมีการติดตามตัวเลขสรุปอย่างใกล้ชิด
อัตราการว่างงานในยูโรโซนไม่ใช่ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญ European Central Bank (ECB) ไม่มี “คำสั่งสองเรื่อง” ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการว่างงาน อย่างไรก็ตาม การที่ตัวเลขลดลงซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนกำลังดีขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ
รายงานการประชุมในเดือนกุมภาพันธ์ของ European Central Bank (ECB) Governing Council เป็นข้อมูลที่ล้าสมัยไปแล้วในขณะนี้เนื่องจากการประชุมเกิดขึ้นในวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งในวันต่อมาเกิดความน่าตกใจจากตัวเลขเงินเฟ้อที่เป็นประวัติการณ์ของยูโรโซน (5.1% yoy) และยังเป็นตัวเลขก่อนการที่รัสเซียรุกรานยูเครนซึ่งทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น รายงานการประชุมจึงน่าจะค่อนข้างแสดงท่าทีว่าต้องการควบคุมอัตราเงินเฟ้อซึ่งอาจไม่เหมาะสมเท่าใด ตลาดคลายกังวลจากเรื่องนโยบายที่เข้มงวดแล้วซึ่งสันนิษฐานได้หลังจากตัวเลข CPI และการประชุม
อย่างไรก็ตาม รายงานยังคงเป็นที่สนใจเพราะแสดงถึงวิ่งที่คณะมนตรีบริหารกำลังคิดในเวลานั้น รวมถึงสิ่งที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนไปมีท่าทีว่าต้องการควบคุมอัตราเงินเฟ้อในงานแถลงข่าว นอกจากนี้ ผมยังอยากจะเข้าใจการอภิปรายของพวกเขาให้ดีขึ้นว่าพวกเขาได้จัดลำดับในการเปลี่ยนแปลงนโยบายปัจจุบันอย่างไรบ้าง (พวกเขากล่าวว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึง “เวลาหนึ่ง” หลังจากที่พวกเขาหยุดซื้อสินทรัพย์สุทธิ แต่ “เวลาหนึ่ง” จะนานเท่าใด และทุกคนจะเห็นด้วยกับลำดับดังกล่าวหรือไม่)
Powell ประธาน Fed จะแถลงการณ์อีกครั้งในวันนี้ต่อหน้าคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของวุฒิสภา (Senate Financial Services Committee) แน่นอนว่าเขาจะไม่พูดอะไรที่ต่างจากเมื่อวานที่พูดต่อหน้าคณะกรรมาธิการธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย (House Banking Committee) แต่เขาอาจจะพูดอะไรเพิ่มเติม
การขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นคาดว่าจะปรับตัวลดลง 7k หลังจากปรับตัวลดลง 17k ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จริงๆ แล้ว ตัวเลขเพิ่งกลับไปอยู่ในกรอบตามปกติที่เคยเป็นก่อนเกิดโรคระบาด ตัวอย่างเช่น ในปี 2017 ตัวเลขอยู่ในกรอบระหว่าง 226k ถึง 298k ส่วนในปีนี้ ตัวเลขอยู่ในกรอบระหว่าง 225k ถึง290k ผมคาดว่าตัวเลขจะยังคงอยู่ในกรอบดังกล่าวในช่วงที่เหลือของปีเว้นแต่ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นและ/หรือนโยบายที่เข้มงวดของ Fed จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจาก PMI ภาคบริการที่เป็นตัวเลขสุดท้ายจาก Markit แล้ว เราจะได้รับ PMI ภาคบริการของ Institute of Supply Management (ISM) ที่เป็นคู่แข่ง โดยคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 1.2 จุดซึ่งต่ำกว่าการปรับตัวสูงขึ้น 5.5 จุดของ Markit ระหว่างเดือน แต่ยังคงอยู่ในทิศทางโดยรวมที่เหมือนกัน
ตลาดจะยังคงให้ความสนใจ PMI ราคาค่าสินค้าที่ชำระและการจ้างงานถึงแม้จะไม่มีการคาดการณ์ ซึ่งตัวเลขทั้งคู่ได้เริ่มปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาค่าสินค้าที่ชำระอยู่ในระดับที่สูงมาก ส่วน PMI การจ้างงานดูน่ากังวลมากกว่าเพราะภาคบริการจ้างงานต่ำกว่าแรงงานจำนวนมาก (86%) ของสหรัฐฯ
พูดถึงเรื่องการจ้างงาน ในช่วงกลางคืน เราจะได้รับข้อมูลการจ้างงานจากญี่ปุ่น ผมสงสัยอยู่เสมอว่าเหตุใดค่าความเกี่ยวข้องของ Bloomberg ในด้านนี้ถึงได้สูง (อยู่ที่ 98 ซึ่งหมายถึง 98% ของผู้ที่กำหนดค่าสำหรับข้อมูลชี้วัดของญี่ปุ่นตัวนี้) ข้อเท็จจริงก็คือตัวเลขดังกล่าวแทบไม่ปรับตัว และคาดว่าในเดือนนี้ก็เช่นกัน โดยคาดว่าอัตราการว่างงานจะคงที่ ส่วนอัตรางานที่เปิดรับสมัครคาดว่าจะลดลง 1 จุด (tick) ซึ่งไม่น่าตื่นเต้นเลย
จากนั้น เยอรมนีจะประกาศดุลการค้าพรุ่งนี้เช้า ซึ่งมีค่าความเกี่ยวข้องของ Bloomberg ที่ค่อนข้างต่ำเช่นกันแต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกว่าการค้าเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินได้ มีการคาดว่าการเกินดุลการค้าที่ปรับตัวลดลงอย่างมากในเดือนก่อนจะปรับตัวลดลงอีก ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมาก็คาดว่าจะลดลงเช่นกัน
เนื่องจากการนำเข้าของเยอรมนีกำลังเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการส่งออกมาก
ประเด็นก็คือการเกินดุลการค้าของเยอรมนีจะชดเชยการขาดดุลการค้าจำนวนมากที่เหลือของสหภาพยุโรปได้ (แต่ไม่ทั้งหมดอีกต่อไป) หากการเกินดุลการค้าของเยอรมนีกำลังลดลง ยูโรโซนโดยรวมก็จะมีการขาดดุลการค้ามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ใช่สำคัญ…จนกว่าจะเกิดขึ้น