ตลาดวันนี้
หมายเหตุ: ตารางด้านบนได้รับการอัปเดตก่อนเผยแพร่ด้วยการคาดการณ์ล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามข้อความและกราฟได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนระหว่างการคาดการณ์ที่ระบุในตารางด้านบนและการคาดการณ์ที่ระบุในข้อความและกราฟ
ช่วงเช้าที่เงียบสงบในยุโรป
ในช่วงบ่าย ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคม นั่นคือตอนที่ ECB ยืนยันว่าจะชะลอการซื้อพันธบัตรและหยุดซื้อพันธบัตรภายใต้โครงการจัดซื้อฉุกเฉินเพื่อรับมือกับโรคระบาด (PEPP) โดยสิ้นเชิง ณ สิ้นเดือนมีนาคม (ตามที่คาดการณ์ไว้) นั่นคือจุดเปลี่ยนของนโยบาย ECB ดังนั้นรายงานดังกล่าวจะถูกอ่านเพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คณะกรรมการบริหารเปลี่ยนแนวทาง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อดูว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไรหากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงอย่างรวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเร็วๆ นี้ พวกเขาได้มุ่งเน้นให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงอาจมีแผนฉุกเฉินสำหรับสิ่งที่พวกเขาจะดำเนินการหากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
ต่อมาเป็นผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของ Fed สาขาฟิลาเดลเฟีย ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกมีแนวโน้มสูงขึ้นหรือไม่ ตัวเลขเหล่านี้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 188,000 รายในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม เพียงเพื่อเด้งกลับขึ้นไปที่ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 4 สัปดาห์ที่ระดับ 211,000 ราย สัปดาห์ที่แล้วมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจถึง 23,000 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน นั่นแสดงให้เห็นว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่น่าหวาดกลัวได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดแรงงานอยู่บ้าง ตัวเลขของสัปดาห์นี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะเป็นสัปดาห์ที่มีการสำรวจตัวเลขการจ้างงานเดือนมกราคม ตัวเลขที่ไม่ดีอาจทำให้ Fed ต้องหยุดชะงักได้
เจ้าหน้าที่ของ Fed หลายคนกล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า แม้ว่าโอมิครอนอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะใกล้ แต่พวกเขาไม่คาดหวังผลกระทบที่ยั่งยืนจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน (แม้ว่าความจริงแล้วสหรัฐฯ จะตามหลังประเทศอื่นๆ ในการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนส่วนใหญ่เพราะเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง – ผลสำรวจของ Gallup ในเดือนกันยายนพบว่า พรรครีพับลิกันได้รับการฉีดวัคซีนจำนวน 56% พรรคเดโมแครต 92% และพรรคการเมืองอิสระ 68% มีหลายๆ ฝ่ายกล่าวว่าเป็นเรื่องของวัย แต่ในกรณีนี้สมาชิกพรรครีพับลิกัน – ซึ่งมีแนวโน้มเป็นผู้สูงวัยมากกว่าพรรคเดโมแครต – ควรมีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงกว่า)
ในทางกลับกัน ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการต่อเนื่องนั้นยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
นั่นเป็นเพราะมีคนได้งานทำเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเพราะคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กลายมาเป็นคนไม่มีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์จากการว่างงานกันแน่ น่าจะเนื่องด้วยสาเหตุแรก เพราะระยะเวลาการว่างงานโดยเฉลี่ยนั้นดูเหมือนจะลดลง อย่างน้อยเปอร์เซ็นต์ของผู้ว่างงานเป็นเวลา 27 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการตกงานจากการว่างงานนั้นก็กำลังลดลง (ระยะเวลาการว่างงานโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.9 สัปดาห์ ลดลงจากจุดสูงสุดหลังเกิดการระบาดที่ 19.6 สัปดาห์ แต่ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2019 ที่ 9.2 สัปดาห์)
จากนั้นเราก็นั่งรอตลาดโตเกียวเปิดและรอการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่น (CPI) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 30 bps เป็น 0.90% yoy ซึ่งสูงกว่าดัชนี CPI ของโตเกียวเล็กน้อย (+0.8% yoy) แต่ดัชนี “core-core” ของ BoJ ซึ่งไม่รวมทั้งราคาอาหารและพลังงาน (ซึ่งก็คือดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ “พื้นฐาน” ของประเทศส่วนใหญ่) คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ -0.6% yoy แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะเห็นการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเพื่อให้กลับสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้ เมื่อประเทศยังอยู่ในภาวะเงินฝืดระดับนั้น
นอกจากนี้ BoJ ยังเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนธันวาคมอีกด้วย ทั้งนี้จะจับตาดูหากพวกเขามีการอภิปรายถึงความเป็นไปได้ที่จะลดฐานเงินลง เมื่อพวกเขายุติมาตรการสนับสนุนทางการเงินเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่บางส่วน
จากนั้นเราก็รอเช้าวันนี้ของลอนดอนเพื่อเฝ้าติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักร ตัวเลขดังกล่าวจะมีความสำคัญเนื่องจากจะทำให้ตลาดเข้าใจถึงผลกระทบของข้อจำกัด ‘Plan B’ ก่อน คาดการณ์ว่าตัวเลขจะปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เพราะการใช้จ่ายจำนวนมากที่มักจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมได้เกิดขึ้นช่วงที่มีการลดราคาครั้งใหญ่ในวัน Black Friday เมื่อเดือนพฤศจิกายนแทนแล้ว นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโอมิครอนในช่วงเดือนธันวาคมทำให้จำนวนผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลลดลง ซึ่งอาจส่งผลลบต่อ GBP แต่ผมคิดว่าผู้คนมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษมากกว่า