ตลาดวันนี้
หมายเหตุ: ตารางด้านบนได้รับการอัปเดตก่อนเผยแพร่ด้วยการคาดการณ์ล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามข้อความและกราฟได้ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงอาจมีความคลาดเคลื่อนระหว่างการคาดการณ์ที่ระบุในตารางด้านบนและการคาดการณ์ที่ระบุในข้อความและกราฟ
เราได้พูดถึงยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรกันไปแล้วเมื่อวานนี้
วันนี้เรายังมียอดค้าปลีกในแคนาดาที่น่าจับตามองเช่นกัน เราทราบกันอยู่แล้วว่ายอดขายรถยนต์ตกลงเล็กน้อยในเดือนนี้ แต่ในทางกลับกัน ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายที่สถานีบริการน้ำมันได้ โดยสรุปนั้นตัวเลขยอดค้าปลีกทั้งแบบที่รวมและไม่รวมยอดขายรถยนต์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกัน (ยอดค้าปลีกที่รวมยอดขายรถยนต์จะมีคะแนนความตรงเป้าหมายจาก Bloomberg สูงกว่า แต่ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมยอดขายรถยนต์ดูเหมือนจะมีค่าสหสัมพันธ์กับความเคลื่อนไหวที่ตามมาของสกุลเงินที่ดีกว่า)
อย่างไรก็ตามแคนาดาทำได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ หลายประเทศมากในด้านยอดค้าปลีก ยอดค้าปลีกตามการคาดการณ์นี้น่าจะสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด 14.5% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางแคนาดา (ที่ขยายขนาดงบดุลเป็นเกือบ 5 เท่าของขนาดงบดุลก่อนเกิดโรคระบาด) ซึ่งได้อัดงบสำหรับมาตรการกระตุ้นการคลัง ซึ่งคิดเป็น 23% ของ GDP
ผมไม่คิดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหภาพยุโรปจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญ ยังไงก็ตาม คาดการณ์ว่าน่าจะปรับลดลงเล็กน้อย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะค่อนข้างดีเมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรป ซึ่งมีการล็อกดาวน์ในบางประเทศ การประท้วงการล็อกดาวน์ในประเทศอื่น ฯลฯ เป็นต้น บางทีผู้คนอาจรู้สึกเชื่อมั่นมากขึ้นเพราะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว (ผมได้รับรายงานอัตราการฉีดวัคซีนว่าอยู่ที่ประมาณ 77% สำหรับยูโรโซนโดยรวม, ประมาณ 67% ในกรีซ และ 89% ในโปรตุเกส)
ดัชนีชี้นําวัฏจักรธุรกิจของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจะค่อนข้างใกล้เคียงกับช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและเกือบจะเท่ากับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 6 เดือนพอดี กล่าวอีกนัยหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มอัตราการเติบโตในสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคมนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง GDPNow ของ Atlanta Fed คาดการณ์ GDP ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ +5.0% qoq SAAR ในขณะที่ St. Louis Fed คาดการณ์อยู่ที่ระดับ +3.73% อัตราการเติบโตเหล่านี้น่าจะสูงกว่าในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 2.3% qoq SAAR นั่นเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งมากที่จะช่วยให้ Fed สามารถดำเนินการตามแผนในการเข้มงวดนโยบายอย่างรวดเร็วได้ ทั้งนี้น่าจะส่งผลบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์